วันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

หลักการในการเปลี่ยนประโยคจาก Active Voice ให้เป็น Passive Voice ดั

เราจะมีหลักการในการเปลี่ยนประโยคจาก Active Voice ให้เป็น Passive Voice ดังนี้
กรณีที่ 1 ประโยคมีกรรมเพียงตัวเดียว
1. เปลี่ยนกรรมให้มาเป็นประธานในประโยค
2. ทำการเติม Verb to be ซึ่งมีความเหมาะสมกับ Tense และ ประธาน แล้วตามด้วยกริยาที่เปลียนรูปเป็น Verb 3 (Past Participle)
3. เปลี่ยนประธานเป็นกรรมของประโยค ซึ่งเราจะต้องใส่ by เพื่อแสดงความหมายให้สมบูรณ์
ยกตัวอย่างเช่น
Active: I fix my house.
(ฉันซ่อมบ้านของฉัน)
I เป็น ประธาน
fix เป็น กริยาที่เป็นปัจุบันกาล (Verb 1
my home เป็นกรรม
เราลองเปลี่ยนตามกฎได้ดังนี้
Passive: My home is fixed by me.
(บ้านได้รับการซ่อมโดยฉัน)
กรณีที่ 2 ประโยคมีกรรมตรง (Direct Object) และกรรมรอง (Indirect Object)
Active: My boss assigns me this project.
(เจ้านายได้สั่งงานโปรเจคนี้ให้กับฉัน)
ในประโยคนี้มีกรรมตรง (Direct Object) คือ this project
ในประโยคนี้มีกรรมรอง (Indirect Object) คือ me
เราสามารถสร้างประโยคแบบ passive voice ได้ 2 แบบคือ
1. เอากรรมรอง (Indirect Object) ขึ้นมาเป็นประธาน แบบนี้เป็นแบบที่นิยมใช้กันมากกว่า เราสามารถเขียนได้ดังนี้
Passive: I am assigned this project by my boss.
(ฉันได้ถูกสั่งงานโรปเจคนี้โดยนายของฉัน)
2. เอากรรมตรง (Direct Object) ขึ้นมาเป็นประธาน แต่เราต้องใส่ to ข้างหน้ากรรมรอง (Indirect Object) ไปด้วย เราสามารถเขียนได้ดังนี้
Passive: This project is assigned to me by my boss.
(โรเจคนี้ถูกสั่งงานมาให้ฉันโดยนายของฉัน)
ข้อสังเกตและควรจำสำหรับ Passive Voice มีดังนี้
1. เราอาจจะละเว้นคำว่า by ซึ่งใว้แสดงผู้กระทำ ได้ในกรณีต่างๆดังนี้
1.1. ใช้ในประโยคนั้นเป็นที่รู้กันอยู่แล่วว่าใครเป็นคนกระทำ ยกตัวอย่างเช่น
Thai is spoken here.
ในที่นี้เราละคำว่า by Thais เพราะว่าเป็นที่ทราบกันว่าคนพูดเป็นคนไทย
1.2. ใช้ในประโยคที่เราไม่ทราบว่าใครเป็นคนกระทำอย่างแน่นอน ยกตัวอย่างเช่น
Firework was invented in China.
(ดอกไม้ไฟได้ถูกประดิษฐ์ในจีน)
ในกรณีนี้เราไม่ทราบว่าใครเป็นคนประดิษฐ์ดอกไม้ไฟจึงต้องละไว้

การใช้ Active ในภาษาอังกฤษ

การใช้ Active ในภาษาอังกฤษ

ประโยค Active Voice คือ ประโยคที่มีประธานเป็นทำกริยานั้นโดยตรง โดยที่จะมีโครงสร้างประโยคง่ายๆแบบนี้
Subject + Verb
 ยกตัวอย่างเช่น
I eat breakfast.
(ฉันทานอาหารเช้า)
Jojo works so hard.

(โจโจ ทำงานอย่างหนัก)

โครงสร้าง 12 Tense (Active Voice)

โครงสร้าง 12 Tense (Active Voice)
Present
Simple = S + V.1
Continuous = S + is, am, are + V.1 ing
Perfect =S + have, has + V.3
Perfect Conti. =S + have, has + been + V. 1 ing
Past
Simple = S + V. 2
Continuous = S + was, were + V.1 ing
Perfect = S + had + V.3
Perfect Conti =. S + had + been + V.1 ing
Future
Simple = S + will, shall + V.1
Continuous = S + will, shall + be + V.1 ing
Perfect = S + will, shall +have, has + V.3
Perfect Conti. = S + will, shall +have, has + been + V.1 ing …

ข้อควรระวังในการใช้รูปประโยคแบบ passive

ข้อควรระวังในการใช้รูปประโยคแบบ passive
ถ้ารูปเดิมใน Active Voice มีกรรม 2 ตัว (double objects) ก็สามารถใช้เป็นรูป Passive Voiceได้ 2 แบบ เช่น

ตัวอย่างประโยคที่ 1
แบบที่ 1
He was given some salt by the cook. (ใช้กรรมรองเป็นประธาน)
แบบที่ 2
Some salt was given to him by the cook. (ใช้กรรมตรงเป็นประธาน)
Active Voice (ของ 2 ประโยคข้างต้น) คือ The cook gave

ตัวอย่างประโยคที่ 2
แบบที่ 1
We were shown the museum . (by someone)
แบบที่ 2
The museum was shown to us . (by someone)
Active Voice (ของ 2 ประโยคข้างต้น) คือ Someone showed


ข้อสังเกต ตามความนิยม จะใช้กรรมรอง (หมายถึงบุคคล) มาเป็นประธาน

ตารางการกระจายกริยาแบบ Passive Voice (กรรมวาจก)ใน Tense (กาล) ต่างๆ

ตารางการกระจายกริยาแบบ Passive Voice (กรรมวาจก)ใน Tense (กาล) ต่างๆ






หลักการใช้ Passive voice

หลักการใช้
ประโยค (Sentence) คือข้อความที่เอ่ยมาแล้วเข้าใจได้กระจ่างชัดว่า ประธาน แสดง กริยา อะไร เมื่อใด ถ้ากริยานั้นต้องมีกรรม (Transitive Verb) ก็ต้องมีกรรมระบุในประโยคด้วย เช่น
เขา เดิน - He walked
เขา เป็นประธาน (Subject) เดิน เป็นกริยาไม่ต้องการกรรม (Intransitive Verb) เป็นอดีตกาล (Past tense)
เรา กิน มันฝรั่ง - We eat potatoes เรา เป็นประธาน (Subject) กิน เป็นกริยาต้องมีกรรม (Transitive Verb) เป็นปัจจุบันกาล (Present Tense)
ทั้ง 2 ประโยคข้างต้นนี้ มีประธานเป็นผู้กระทำทั้งสิ้น (แต่จะอยู่ในรูป tense อย่างใด ก็สุดแท้แต่เวลาที่ต้องการบ่งชี้) เราเรียกโครงสร้างของประโยคชนิดนี้ว่า กรรตุวาจก (Active Voice) ลองสังเกตประโยคต่อไปนี้ดูบ้าง
Mangoes are eaten -มะม่วง ถูกกิน มะม่วง เป็นประธาน (Subject) ถูกกิน เป็นกริยา (Present Tense) ประธานของประโยคคือ Apples ไม่ได้ทำกริยา กิน แต่ในทางตรงกันข้าม ประธานกลับเป็นฝ่ายถูกกระทำ

The letter was read yesterday -จดหมาย ถูกอ่าน เมื่อวานนี้จดหมาย เป็นประธาน (Subject) ถูกอ่าน เป็นกริยา (Past Tense) ในทำนองเดียวกันกับประโยคแรก จดหมายซึ่งเป็นประธานของประโยคไม่ได้ เป็นผู้อ่าน แต่กลับเป็นสิ่งที่ถูกอ่านโดยประธาน ทั้ง 2 ประโยคหลังนี้ มีประธานเป็นผู้ถูกกระทำ โครงสร้างเช่นนี้เรียกว่า กรรมวาจก (Passive Voice)